ผู้เขียน หัวข้อ: รถแลกเงิน: มัดรวมทุกมาตรการช่วยลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์...ครบจบที่นี่ที่เดี  (อ่าน 179 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 253
    • ดูรายละเอียด
รถแลกเงิน: มัดรวมทุกมาตรการช่วยลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์...ครบจบที่นี่ที่เดียว

รถเปรียบเหมือนปัจจัยที่ 5 ที่เป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะคนที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางบ่อยๆ ไปโน่นนี่ตลอดเวลา ซึ่งคนส่วนใหญ่จะซื้อรถด้วยวิธีการเช่าซื้อ แต่ก็มีส่วนน้อยที่ซื้อด้วยเงินสด โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงปัญหาของคนที่ทำการเช่าซื้อรถ และอยู่ในระหว่างผ่อนชำระ ในสถานการณ์วิกฤต COVID-19 ที่หลายคนเจอปัญหารายได้ลดลง หรือที่หนักๆ เลยก็ขาดรายได้ บางคนถึงขั้นตกงาน ใครที่เจอสถานการณ์แบบนี้อยู่อย่าเพิ่งถอดใจ และปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถไปนะคะ วันนี้ได้มัดรวมทุกมาตรการช่วยลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของทุกสถาบันการเงินมาฝากทุกคนแบบครบจบที่นี่ที่เดียว เพื่อใช้เป็นแนวทางหรือทางออกของหนี้สินครั้งนี้ค่ะ

 
รวมทุกมาตรการช่วยลูกหนี้ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์...ม้วนเดียวจบ!!

ก่อนหน้านี้ (วิกฤต COVID-19 ช่วงแรกเมื่อต้นปี 2563) ทางแบงก์ชาติได้ร่วมกับสถาบันการเงินต่างๆ ที่มีในประเทศไทย ออกนโยบายการช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือการพักหนี้แบบปูพรมให้กับลูกหนี้ปกติ ได้ลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงเจอวิกฤต COVID-19 โดยอัตโนมัติทุกราย ซึ่งลูกหนี้แต่ละรายไม่จำเป็นต้องดำเนินการสมัครขอรับความช่วยเหลือ (มาตรการความช่วยเหลือได้ครบกำหนดเมื่อ ก.ค. 2563) แต่เมื่อสถานการณ์วิกฤต COVID-19 ระลอกใหม่ ได้กลับมาอีก เศรษฐกิจหยุกชะงักอีกครั้ง แบงก์ชาติก็ได้มีนโยบายร่วมกับสถาบันการเงินต่างๆ อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นการช่วยเหลือที่แตกต่างกับครั้งแรก ด้วยการใช้มาตรการช่วยเหลือแบบเฉพาะเจาะจง คือ หากลูกหนี้รายใดมีความเดือดร้อน ต้องการจะขอความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ ก็สามารถสมัครลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือได้เป็นรายๆ ไป


สนใจจะขอรับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ ต้องทำยังไง?

ในสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่นี้ (ปี 2564) มาตรการการช่วยเหลือจะเป็นแบบเฉพาะเจาะจง คือ ลูกหนี้จะไม่ได้รับการช่วยเหลือแบบปูพรม (ลูกหนี้ทุกรายได้รับอัตโนมัติ) แต่จะเป็นการช่วยเหลือให้กับลูกหนี้ที่ได้รับความเดือนร้อนต่อเนื่อง โดยลูกหนี้ที่ต้องการความช่วยเหลือจะต้องแจ้งความจำนง หรือสมัครขอรับความช่วยเหลือด้วยตัวเอง จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 (จากเดิมที่ครบกำหนดเมื่อ 31 ธ.ค. 2563) ด้วยวิธีการลงทะเบียนผ่าน Mobile Application ของสถาบันการเงินที่ต้องการขอความช่วยเหลือ (ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและง่ายที่สุด) หรือหากบางคนไม่สามารถใช้บริการผ่าน Mobile Apps ได้ ก็ให้เลือกใช้วิธีการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ (Website) ของสถาบันการเงินที่ต้องการขอความช่วยเหลือ หรือถ้ายังไม่สามารถสมัครขอความช่วยเหลือจากทั้ง 2 ทางได้ ก็ให้โทร. ติดต่อเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินที่ต้องการขอความช่วยเหลือโดยตรงได้เลย (ซึ่งวิธีนี้อาจจะเกิดปัญหาจากการรอสายนานมาก)

แต่!! ถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือ หรือความช่วยเหลือที่ได้รับนั้นยังไม่ตอบโจทย์ ลูกหนี้สามารถติดต่อโดยตรงไปที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213

 
มีประวัติติด "เครดิตบูโร" และเป็น "NPL"  ใครจะช่วยได้?

มาตรการช่วยเหลือปกติที่แบงก์ชาติ และสถาบันการเงินต่างๆ ได้ออกมานั้น เป็นมาตรการที่ใช้ช่วยเหลือลูกหนี้ปกติ ที่ไม่ใช่ NPL ดังนั้น จึงเกิดเป็นคำถามว่า ลูกหนี้ที่ติดเครดิตบูโร หรือลูกหนี้ที่เป็น NPL จะขอความช่วยเหลือได้มั้ย? เพราะความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นก็ไม่แพ้กับลูกหนี้ปกติเลย แถมยังหนักกว่าอีกด้วย ซึ่งจากความเดือนร้อนนี้ทางแบงก์ชาติก็ไม่ได้ละเลย และมีมาตรการเฉพาะสำหรับลูกหนี้กรณีพิเศษนี้ด้วยการเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ที่ติดเครดิตบูโร หรือลูกหนี้ที่เป็น NPL ติดต่อสอบถามปรึกษาปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับหนี้สิน ได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213 ซึ่งเรียกว่าเป็น "ทางด่วนแก้หนี้" หรือถ้าปัญหาหนักมากก็จะมีการส่งต่อ หรือทางลูกหนี้จะติดต่อไปที่ "คลินิกแก้หนี้" โทร. 0-2610-2266 โดยตรงเลยก็ได้ ซึ่งทุกความช่วยเหลือ และแนวทางแก้ไขที่จะเกิดขึ้นนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากลูกหนี้ในการแจ้งข้อเท็จจริงทุกปัญหาด้วยนะคะ


 

ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google